|
|
๔
| contractor 's safety supervision and management | การกำกับดูแลและบริหารจัดการความปลอดภัยสำหรับผู้รับเหมา | ตอนที่สี่ เทคนิคตรวจติดตามความปลอดภัยผู้รับเหมา | | งานเขียน เรียบเรียง : รณรงค์ แสงตะเกียง | facebook : รณรงค์ แสงตะเกียง | e-mail.contact number : sangtakieng@gmail.com 093 7719222 | | บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA) | อบรม สัมมนา ที่ปรึกษาจัดทำระบบ & ระเบียบปฏิบัติ | e-mail. contact number : sangtakieng@gmail.com 093 7719222 |
ตอนที่สี่ เทคนิคตรวจติดตามความปลอดภัยผู้รับเหมา | Contractor's Follow up Safety Audits | ความสัมพันธ์เชิงระบบเกี่ยวกับการกำกับดูแลและบริหารจัดการผู้รับเหมา
(System
Approaching for Contractors Supervision and Management)
| |
|
ทำไมต้องตรวจติดตามความปลอดภัย
ได้สิ่งใดจากกิจกรรมนี้, output คือผลขั้นปลายที่เกิดขึ้น
ซึ่งผลขั้นปลายจะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงเงื่อนไขเริ่มต้น
ซึ่งตกลงไว้กับผู้รับเหมา หรือในเชิงระบบเรียกว่า input
และอีกประเด็นคือหลักจากผู้รับเหมาเข้ามาทำงานแล้ว การกำกับดูแลถูกต้อง
ทำให้บรรลุตามเป้าหมายหรือไม่ | | เหตุผลที่ต้องตรวจติดตามความปลอดภัยและสิ่งที่ได้จากกิจกกรมดังกล่าว
สรุปได้ดังต่อไปนี้เป็นขั้นต่ำ | | - เพื่อให้ทราบถึง
สถานะจริงด้านความปลอดภัยของหน่วยงาน
การออกไปสังเกตและเก็บข้อมูลจริงจากการทำงานภาคสนาม
จึงไม่ต้องคาดการณ์และหลีกเลี่ยงคำว่า คิดว่า น่าจะ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลจริงที่พบ
เรื่องใดแก้ได้เลย ก็ให้ดำเนินการแก้ไขทันที
(immediately action) ข้อมูลใดที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้
ก็ให้นำบันทึกมาคิดวิเคราะห์ วางแผนเพื่อดำเนินการแก้ไข
ส่วนข้อมูลใดที่ยังสรุปไม่ได้ว่าสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องกับหลักการทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ก็จะได้นำมาเรียนรู้และหาข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไร เป็นลำดับถัดไป
| การนำข้อมูลจริง
ไม่ได้เดาสุ่มมาควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จึงเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ
ตรงเป้าหมายและประสบผลสำเร็จได้จริง
| | - เพื่อค้นหาสภาพที่ไม่ปลอดภัยและการกระทำของคนที่ไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังอุบัติการณ์ให้ต่ำกว่าระดับ near
miss ภาพประกอบจากเว็ปไซด์ kpa.io
|
| |
ทำไมจึงต้องควบคุม
ตรวจติดตามความปลอดภัยและเฝ้าระวังให้อุบัติเหตุต่ำกว่าระดับเฉียดหรือระดับเกือบเกิดอุบัติเหตุ
Near Miss | | คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำจำกัดความ
| | - unsafe behaviors, unsafe condition การกระทำของคนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน การกระทำที่ไม่ปลอดภัย, สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย
- near miss
เหตุการณ์เสียวเกือบเกิดอุบัติเหตุ
- work injuries &
medical treatment injury
บาดเจ็บจากการทำงาน,
บาดเจ็บถึงขั้นบำบัดทางการแพทย์
- lost time injury บาดเจ็บต้องหยุดงานหนึ่งวันหรือหนึ่งกะทำงาน
- near miss fatality &
fatality สูญเสียอวัยวะ ทุพลภาพหรือตาย
|
คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ
| | จากการศึกษาระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ
พบว่าการกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่ต่ำกว่ามาตรฐานของคนและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย
หากไม่ถูกตรวจพบและควบคุมเสียก่อน
ก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุในระดับที่รุนแรงขึ้น
| | - การกระทำของคนที่ต่ำกว่ามาตรฐานและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย
ทุก ๓๐,๐๐๐
ครั้งจะส่งผลให้มีแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นถึงระดับเกือบเกิดอุบัติเหตุหรือ
near
miss ถึง
๓,๐๐๐
ครั้ง
- ความรุนแรงอุบัติเหตุ
ระดับเกือบเกิดอุบัติเหตุ : ต่อระดับบาดเจ็บจากการทำงานหรือบาดเจ็บถึงขั้นบำบัดทางการแพทย์
:
ต่อระดับหยุดการทำงาน :
ต่อระดับสูญเสียอวัยวะ ทุพลภาพหรือตาย สัดส่วน =
๓,๐๐๐
:
๓๐๐
:
๓๐
| |
ประเภทของการตรวจติดตามความปลอดภัย | | | - ตรวจติดตามเอกสารระบบปฏิบัติงาน system
audits
- ตรวจติดตามการนำระบบมาใช้
และความสอดคล้องตามข้อกำหนดของระบบ compliance
audits
- ตรวจติดตามระเบียบปฏิบัติ
กลุ่มงานเสี่ยงอันตรายสูง critical procedure audits
- ตรวจติดตามพฤติกรรมการทำงานของคน safe
act observations (SAO) หรือ behavioral
audits
- ตรวจติดตามความปลอดภัยเฉพาะเรื่อง focused
audits
- ตรวจติดตามสภาพพื้นที่ปฏิบัติงาน house
keeping audits
|
System Audits ตรวจติดตามเอกสารระบบปฏิบัติงาน
| | เอกสารระบบปฏิบัติงานจะแบ่งออกเป็น ๒
กลุ่มคือ หนึ่ง-เอกสารระบบปฏิบัติงานจากภายนอก
ตัวอย่างเช่นกฎหมายประเทศ มาตรฐานสากล ระเบียบปฏิบัติจากบริษัทแม่ ฯลฯ และ สอง-เอกสารระบบปฏิบัติงานที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นการภายในบริษัท
| | - เอกสารสนับสนุนการปฏิบัติงานจากภายนอก
(external
supporting documents) เอกสารกลุ่มนี้
ส่วนหนึ่งจะนำมาใช้โดยตรงเช่น กฎหมายประเทศ
หมายความว่าให้พิจารณาว่ากระบวนการทำงานของบริษัท ต้องนำกฎหมายฉบับใดมาใช้บ้าง
ซึ่งเมื่อพิจารณาเทียบเคียงแล้วว่าต้องใช้กฎหมายฉบับใดบ้าง
บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายฉบับนั้นๆ ตัวอย่างเช่น
| | มีเครนเหนือศีรษะ (ปั้นจั่น)
ใช้งานในบริษัท บริษัทก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎกระทรวง
กำหนดการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
เกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่นและหม้อน้ำ พุทธศักราช ๒๕๕๒
และกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
| อีกส่วนหนึ่งของเอกสารสนับสนุนกายนอก
จะนำเข้ามาใช้เพื่ออ้างอิงข้อมูลและนำข้อมูลนั้นมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของบริษัท
เช่นเอกสารของบริษัทแม่ เอกสารมาตรฐานสากลเช่น JIS
ญี่ปุ่น,
DIN เยอรมัน,
EC
มาตรฐานยุโรป
ฯลฯ เป็นต้น
| | - เอกสารสนับสนุนการปฏิบัติงานภายในบริษัท
(internal
supporting documents) เนื่องจากกระบวนการทำงานที่แตกต่างกัน
บริษัทจะจัดทำขึ้นให้ตรงกับกระบวนการทำงาน และใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานภายในบริษัท
ตัวอย่างเช่น ระเบียบปฏิบัติ-การตัดแยกพลังงานและล็อค-เอาท์ระบบ, ระเบียบปฏิบัติ-งานปฏิบัติการที่อับอากาศ, ระเบียบปฏิบัติ-การทำงานบนที่สูงและที่ต่างระดับ
ฯลฯ
|
การตรวจติดตามความปลอดภัย system
safety ปกติจะไม่ใช้ตรวจฯ
ผู้รับเหมา
เนื่องจากผู้รับเหมาไม่ได้เป็นผู้ศึกษากระบวนการทำงานว่าต้องจัดทำระเบียบปฏิบัติใดบ้าง
แต่ให้ตรวจว่า ผู้รับเหมานำระบบหรือเอกสารสนับสนุนปฏิบัติงานมาใช้หรือไม่
หากไม่นำมาใช้ก็ต้องตรวจสอบต่อ ว่าเป็นที่เหตุใด เป็นที่ input,
processing หรือว่าข้อจำกัดใด
จากนั้นให้ดำเนินการแก้ไข, อย่างไรก็ตาม
การตรวจติดตามความปลอดภัยเกี่ยวกับระบบ มักจะทำควบคู่กับการตรวจติดตามฯ
ความสอดคล้องการใช้ระบบ compliance
audits
ทั้งนี้เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันโดยตรง
| |
Compliance Audits ตรวจติดตามการนำระบบมาใช้ และความสอดคล้องตามข้อกำหนดของระบบ
| | ดังที่กล่าวข้างต้น
ระบบหมายถึงเอกสารสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ซึ่งมีสองส่วนคือเอกสารสนับสนุนภายนอกและเอกสารสนับสนุนภายใน
หลักการตรวจคือตรวจการทำงานจริงภาคสนามเปรียบเทียบความสอดคล้องกับข้อกำหนดของเอกสาร
| | | | การตรวจติดตามความปลอดภัยลักษณะนี้
เริ่มจากการพิจารณาว่า บริษัทต้องนำเอกสารสนับสนุนปฏิบัติงานฉบับใดมาใช้บ้าง
ซึ่งปกติแต่ละบริษัทจะต้องใช้หลายฉบับ จากนั้นก็จัดลำดับว่าต้องตรวจติดตามฯ
ความสอดคล้องเรื่องใดบ้าง หลังตรวจติดตามฯ ให้นำเฉพาะเรื่องที่พบว่าไม่สอดคล้องมาทวนสอบ
ทวนสอบว่าเป็นเพราะส่วนใดของเชิงระบบ เป็นที่ input
ไม่ดีหรือ processing
ไม่ดี
จากนั้นให้ดำเนินการแก้ไขและกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดซ้ำ
|
Critical Procedure Audits ตรวจติดตามระเบียบปฏิบัติ งานเสี่ยงอันตรายสูง
| | ดังที่กล่าวไว้ในเบื้องแรก
ว่าโดยพื้นฐานงานปฏิบัติการอุตสาหกรรมบนพื้นดิน
จะกำหนดงานเสี่ยงอันตายสูงไว้เจ็ดประเภทคือ งานความร้อนและประกายไฟ
ปฏิบัติการที่อับอากาศ ทำงานบนที่สูง ปฏิบัติการงานนั่งร้าน งานไฟฟ้าแรงสูง
งานขุดเจาะพื้นในเขตโรงงาน และงานขนย้ายโดยใช้จักกลเคลื่อนที่ สำหรับกลุ่มงานอื่นๆ
บริษัทสามารถกำหนดเพิ่มเติมได้ ตามความจำเป็นของกระบวนการธุรกิจ | สำหรับการตรวจติดตามความปลอดภัยลักษณะนี้
ในทางปฏิบัติก็คล้ายกับการตรวจควบซ้อนในสองเรื่อง
หมายถึงตรวจระบบเอกสารสนับสนุนการปฏิบัติงานบวกรวมกับตรวจความสอดคล้องไว้ด้วยกัน
เพียงแต่เป้าหมายจะเป็นเฉพาะงานเสี่ยงอันตรายสูงเท่านั้น
งานเสี่ยงอันตรายสูงอาจมีคำนิยามจากหลายองค์กรวิชาการ, ณ ที่นี้
งานเสี่ยงอันตรายสูงให้พิจารณาจากสององค์ประกอบร่วมคือ (๑) โอกาสเกิดอุบัติเหตุและ (๒) ผลกระทบที่อาจตามมา likelihood
+ consequence (reference AS
4360) | | - บริษัท
จัดทำหรือจัดให้มีระเบียบปฏิบัติ-กลุ่มงานเสี่ยงอันตรายสูงหรือไม่
- หากมี
ได้นำมาปฏิบัติตามข้อกำหนดได้หรือเปล่า
| | | | บันทึกเพิ่มเติม :
ความแตกต่างระหว่างงานทั่วๆ
ไป กับงานเสี่ยงอันตรายสูงคือระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุ
หากประเมินลงไปในรายละเอียด
จะพบว่ากลุ่มงานเสี่ยงอันตรายสูงหากเกิดเหตุมักจะส่งผลกระทบระดับสูญเสียอวัยวะ
ทุพลภาพหรือตาย ฉะนั้น การตรวจติดตามด้านความปลอดภัยต้องได้คุณภาพและมีความถี่เหมาะสม
|
Safe Act Observations-SAO หรือ Behavioral Audits ตรวจติดตามพฤติกรรมการทำงานของคน
| | พฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยของคน
เป็นสัดส่วนที่ทำให้เกิดอุบัติได้มากที่สุด ทฤษฎีการสูญเสียของ
แฟรงค์อีเบิร์ดและเจอร์เมน
(loss
causation model : Frank E.Bird and Germain) มองว่าพฤติกรรมที่ไม่ปลอดภัยของคนเป็นสาเหตุตรงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
แต่จะมีสาเหตุนำ มาจากความหย่อนยานในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย เกิดมาก่อน
ฉะนั้นหากตรวจติดตามและพบความผิดปกติ ให้มองย้อนไปถึงต้นทาง
เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยด้วย
| พฤติกรรมของคนที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
ตัวอย่างเช่น
| | - ไม่ใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคล
หรือใช้แต่ผิดวิธี
- แต่งตัวรุ่มร่าม
- ยืนทำงานในพื้นที่ซึ่งอาจพลัดตกหรืออาจโดนบาด
ตัด หนีบ ทิ่มแทง บีบอัดจากเครื่องจักรโรงงาน
- ซ่อม สร้าง
กู้สภาพหรือแปลงสภาพเครื่องจักร โดยไม่ขออนุญาตทำงานหรือไม่ปิดกั้น
ควบคุมพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ไม่ปฏิบัติตามคู่มือคำแนะนำ ฯลฯ
- ไม่ตรวจสภาพขั้นต้นก่อนใช้งานเครื่องมือ
- ใช้เครื่องจักร เครื่องมือ
เครื่องมือกลที่บกพร่องสภาพไม่พร้อมใช้งาน
- ใช้สารเคมีโดยไม่มีเอกสารความปลอดภัย
(MSDS
or SDS)
ฯลฯ
|
Focused Audits ตรวจติดตามความปลอดภัยเฉพาะเรื่อง
| | การตรวจติดตามความปลอดภัยเฉพาะเรื่อง
มีเจตนารมณ์ใช้ตรวจติดตามฯ เพื่อตอบสนองในสองเงื่อนไข
| | - เพื่อติดตามความปลอดภัยสำหรับเครื่องจักร
เครื่องมือ เครื่องมือกล อุปกรณ์ วัตถุดิบหรือกระบวนการทำงานที่เพิ่งเริ่มต้น,
การตรวจติดตามแบบเฉพาะเรื่อง
จะเป็นการเฟ้นหาข้อมูล ที่ต้องนำมาปรับใช้หรือพัฒนากระทั่ง
มั่นใจว่ามาตรการป้องกันอุบัติเหตุสามารถควบคุมได้ ตัวอย่างเช่น
| ตรวจติดตามการใช้รถกระเช้า
ซึ่งเพิ่งนำเข้ามาใช้งานในบริษัทเป็นสัปดาห์แรก ตรวจติดตามการทำงานพื้นที่เครื่องจักรหลังจากติดตั้งระบบ
interlock
guard
| - ตรวจติดตามเครื่องจักร เครื่องมือ
เครื่องมือกล อุปกรณ์ วัตถุดิบหรือกระบวนการทำงานที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำๆ
หรือต้องการพัฒนาด้านความปลอดภัยเน้นเฉพาะเรื่อง ตัวอย่างเช่น
| ตรวจติดตามการใช้งานโฟร์ค-ลิฟท์ ตรวจติดตามการใช้เครื่องเชื่อมตัดก๊าซ
oxy-acetylene ตรวจติดตามการใช้การทำงานที่เกี่ยวกับงานความร้อนและประกายไฟ ฯลฯ
|
House Keeping Audits ตรวจติดตามสภาพพื้นที่ปฏิบัติงาน
| | การตรวจติดตามความปลอดภัยลักษณะนี้
มีเจตนารมณ์เพื่อให้พื้นที่และสภาพแวดล้อมการทำงานปลอดภัย
ซึ่งมักตรวจติดตามในเรื่องดังต่อไปนี้
| | - ความสะอาด ความเป็นระเบียบพื้นที่
- จัดเก็บของถูกที่
ตรงตามป้ายที่ระบุหรือตามผังที่กำหนดไว้
- จัดเก็บเครื่องมือ เครื่องใช้ วัสดุ
อุปกรณ์ปลอดภัย
เช่นไม่เก็บวัสดุไวไฟไว้ในพื้นที่งานเชื่อมไฟฟ้าหรือเก็บไว้ในพื้นที่ซึ่งอาจเกิดความร้อนหรือประกายไฟ
- จัดเก็บของง่ายและสะดวกเมื่อต้องการนำออกมาใช้
- ของที่ขนย้ายด้วยแรงคน
จัดเก็บได้ตามหลักการเออร์กอนโอมิกส์ ฯลฯ เป็นต้น
|
การจัดการ
เพื่อตรวจติดตามความปลอดภัยผู้รับเหมา
| | เนื่องจากผู้รับเหมามีขอบเขตและเงื่อนไขการทำงานที่ต่างกัน
การตรวจติดตามความปลอดภัยแม้จะมีหลักการเหมือนกัน แต่วิธีการก็จะแตกต่างกันไป
ซึ่งแนะนำดังนี้
| | - ผู้รับเหมาลักษณะที่หนึ่ง (first
tier contractor) เป็นผู้รับเหมาที่มีลักษณะการทำงานคล้ายพนักงาน
การตรวจติดตามความปลอดภัยก็ให้ทำรวมๆ พร้อมกับพนักงานของบริษัท
ไม่ต้องแยกการตรวจติดตาม
- ผู้รับเหมาลักษณะที่สอง (second
tier contractor) ซึ่งปกติจะสั่งงานผ่านหัวหน้างานของผู้รับเหมา
ในกรณีหัวหน้างานของผู้รับเหมามาทำงานในพื้นที่ของบริษัทผู้ว่าจ้างมีหลายคน
ก็ให้หมุนวนเพื่อร่วมตรวจติดตามร่วมกับคนของบริษัทผู้ว่าจ้าง
- ผู้รับเหมาลักษณะที่สาม (third
tier contractor) ผู้รับเหมาลักษณะนี้ทำงานแยกพื้นที่ออกจากบริษัทผู้ว่าจ้าง
การประสานงานก็เป็นลักษณะตัวแทนบริษัทกับตัวแทนบริษัท (company
to company) ฉะนั้นการตรวจติดตามความปลอดภัยจะให้บริษัทผู้รับเหมาทำกันเอง
บริษัทผู้ว่าจ้างขอรับทราบแผนตรวจติดตามฯ และบันทึกผลการตรวจติดตาม
ก็ถือว่าเพียงพอ
| | จะอย่างไรก็ตาม
หากบริษัทผู้ว่าจ้างจะให้ตัวแทนของบริษัทไปร่วมตรวจติดตามความปลอดภัยเป็นครั้งคราว
ก็สามารถทำได้
| | | | จะเห็นได้ว่า การตรวจติดตามความปลอดภัย เป็นเครื่องมือสำคัญในการกำกับดูแลและบริหารจัดการความปลอดภัยสำหรับผู้รับเหมา เนื่องจากทำให้ทราบว่าการทำงานของผู้รับเหมาตรงกับเงื่อนไขที่ตกลงไว้ก่อนว่าจ้างหรือไม่ และต้องไม่ลืมว่าข้อบกพร่องจากการตรวจติดตาม ต้องนำไปแก้ไขให้ครบทั้ง ๔ องค์ประกอบดังที่กล่าวแล้วข้างต้น คือพิจารณาแก้ไขที่ระบบ-คน- เครื่องจักร เครื่องมือ วัสดุ วัตถุดิบและพื้นที่ทำงาน ไม่เช่นนั้นข้อบกพร่องเก่าๆ ก็จะวนกลับมาซ้ำเดิมจนยากควบคุมอุบัติเหตุ ฉะนั้นการใช้เครื่องมือที่กำลังกล่าวถึงนี้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นและต้องทำ | | งานฝึกอบรม แปลเอกสารเซฟตี้ งานที่ปรึกษาจัดทำระบบ-ระเบียบปฏิบัติ : บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA) Telephone 093 7719222 E-mail : sangtakieng@gmail.com |
|
|
|
|
VISIT |
สถิติวันนี้ |
93 คน |
สถิติเมื่อวาน |
142 คน |
สถิติเดือนนี้ สถิติปีนี้ สถิติทั้งหมด |
1390 คน 57575 คน 939627 คน |
เริ่มเมื่อ 2012-10-14 |
| |
| | |