Sangtakieng.com

 

hot work safety-general engineering  knowledge
ความปลอดภัยงานความร้อนประกายไฟ 
ตอนที่ ๑ ปรับพื้นฐานความเข้าใจทั่วไปงานความร้อนประกายไฟ 
 
งานเขียน เรียบเรียง : รณรงค์ แสงตะเกียง
facebook : รณรงค์ แสงตะเกียง
e-mail : sangtakieng@gmail.com  mobile 093 7719222
 
บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA)
อบรม สัมมนา ที่ปรึกษาจัดทำระบบ & ระเบียบปฏิบัติ 
e-mail : sangtakieng@gmail.com  mobile 093 7719222 

ข้อมูลที่จะนำเสนอทั้งหมดมีสามตอน
  • ตอนที่ ๑ ปรับพื้นฐานความเข้าใจทั่วไป : นำเสนอหน้านี้ด้านล่าง
  • ตอนที่ ๒ การป้องกัน ควบคุมอุบัติเหตุงานความร้อนประกายไฟ : อ่านต่อคลิ๊กตรงนี้
  • ตอนที่ ๓ แผนฉุกเฉินและแผนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ : อ่านต่อคลิ๊กตรงนี้

ขอบเขตของเอกสารและหัวข้อที่นำเสนอ
ขอบเขตของเอกสาร เพื่อแนะนำวิธีป้องกันควบคุมอุบัติเหตุจากงานความร้อนและประกายไฟในพื้นที่ซึ่งไม่ได้ออกแบบให้ทำงานความร้อนประกายไฟ (hot work at a temporary hot work site ) และไม่รวมงานปฏิบัติการที่อับอากาศ ทั้งนี้เนื่องจากงานปฏิบัติการที่อับอากาศมีลักษณะจำเพาะ จึงแนะนำให้ศึกษาเรียนรู้พร้อมกับกลุ่มวิชานั้น จะสะดวกและง่ายกว่า หัวข้อที่นำเสนอมีดังนี้    

. ปรับพื้นฐานความเข้าใจทั่วไป 

  • ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับก๊าซติดไฟได้
  • ออกซิเจน
  • การส่งถ่ายความร้อนและการกระเด็นของสะเก็ดไฟ
. การป้องกันควบคุมอุบัติเหตุงานความร้อนประกายไฟ  
  • หลักการ วิธีคิดเพื่อป้องกันควบคุมอุบัติเหตุ
  • วิธีป้องกันควบคุมอุบัติเหตุและมาตรการเฝ้าระวังไฟ
  • กรณีศึกษาอุบัติเหตุ    
๓. ฉุกเฉินและการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ


งานปฏิบัติการอุตสาหกรรมภาคโรงงานและงานปฏิบัติการอุตสาหกรรมอื่นใด ที่มีสถานประกอบกิจการอยู่บนพื้นดิน หมายถึงไม่รวมงานปฏิบัติการที่อยู่นอกฝั่งทะเล เมื่อประเมินความเสียงและศึกษาตัวอย่างจากอุตสาหกรรมโลกสากล พบว่าแบ่งลักษณะงานที่เสี่ยงอันตรายสูงออกเป็น ๗ ประเภท
บันทึกเพิ่มเติม : เนื่องจากเงื่อนไขนี้ไม่ได้ถูกนิยามว่าเป็นงานเสี่ยงอันตรายสูงโดยกฎหมายหรือมาตรฐานสากลใด เป็นแค่แนวปฏิบัติที่ถือปฏิบัติมากกว่า ๓ ทศวรรษ ในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมมาตรฐานสูง ฉะนั้นสถานประกอบกิจการจะกำหนดเพิ่มประเภทงานเสี่ยงอันตรายสูง มากกว่านี้ก็ได้
  • งานความร้อนและประกายไฟ  hot work safety
  • การทำงานในที่อับอากาศ  safe access in confined spaces
  • การทำงานบนที่สูง  working at heights
  • งานปฏิบัติการนั่งร้าน (ผู้ติดตั้งรื้อถอนนั่งร้าน, ผู้ตรวจนั่งร้านและผู้ปฏิบัติงานนั่งร้าน)  scaffolding erector, scaffolding inspector and safe access scaffolds
  • การทำงานกับไฟฟ้าแรงสูง  high voltage
  • งานขุดเจาะ  excavation-และ
  • งานขนถ่ายโดยใช้จักรกลผ่อนแรง  heavy handling 

. ปรับพื้นฐานความเข้าใจทั่วไป
งานความร้อนและประกายไฟ หมายความว่ากิจกรรมที่เกิดความร้อนหรือประกายไฟ ในระดับที่ทำให้สารติดไฟ สามารถติดไฟหรือระเบิดได้  hot work is any work using open flames or sources of heat that could ignite materials in the work area. ตัวอย่างงานที่ทำให้เกิดความร้อน ประกายไฟ 
  • งานเชื่อมไฟฟ้า electric arc welding
  • งานที่ใช้หัวเผา ให้ความร้อนชิ้นงาน burning
  • งานใช้ความร้อนประสานโลหะ brazing
  • งานบัดกรี soldering
  • งานเชื่อมตัดโลหะด้วยก๊าซ oxy-acetylene welding and cutting
  • งานขัดผิวโลหะ grinding ferrous metals 

ฉะนั้นงานที่เป็นลักษณะดังนี้ ห้ามไม่ให้นำวัสดุไวไฟเข้าไปในพื้นที่ซึ่งออกแบบให้ทำงานความร้อนและประกายไฟ กรณีเป็นงานซ่อม สร้างหรือแปลงสภาพซึ่งอยู่นอกพื้นที่จำเพาะดังที่กล่าวถึง ให้ขออนุญาตทำงาน (permit to work)

 


จากพื้นฐานเรียนรู้มี ๓ องค์ประกอบที่ทำให้ไฟไหม้หรือเกิดการระเบิด คือเชื้อเพลิง ออกซิเจนและความร้อนหรือประกายไฟ เอกสารฉบับนี้จะกล่าวทบทวนถึงเชื้อเพลิงและมุ่งเน้นที่การป้องกัน ควบคุมความร้อนและประกายไฟ เป็นเรื่องหลัก, วัสดุติดไฟได้ สถานะทางกายภาพของเชื้อเพลิง อาจเป็นของแข็ง ของเหลวหรือก๊าซก็ได้ สมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา National Fire Protection Association : NFPA แบ่งเชื้อเพลิงตามลักษณะการติดไฟ ออกเป็น ๔ ประเภท
  • class A : เป็นไฟจากเชื้อเพลิงของแข็งทั่วไป เช่นไม้ ถ่าน ฟืน กระดาษ ขยะ ฯลฯ
  • class B : ไฟไหม้เชื้อเพลิงเหลวหรือก๊าซติดไฟ
  • class C : ไฟไหม้อุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้า
  • class D : ไฟไหม้โลหะที่ไวปฏิกิริยากับน้ำ 

.๑ ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับก๊าซติดไฟได้
(a) ก๊าซอะเซทีลีนและคุณสมบัติทางกายภาพ
  • กลิ่น smell : รุนแรง strong
  • ความหนาแน่นเมื่อเทียบกับอากาศ density relative to air : 0.91 เท่าของอากาศ ความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศ เมื่อรั่วไหลออกนอกระบบจะลอยตัวขึ้น
  • ค่าความร้อน heating value mj/m3 : 58
  • ความสามารถในการติดไฟ degree of flammability : ไวไฟ-สูงมาก very high
  • ช่วงติดไฟ flammable rang : UEL-LEL= 2.5-100  

บันทึกเพิ่มเติม : UEL upper explosive limit ค่าความเข้มข้นสูงสุดที่ทำให้ก๊าซนั้นติดไฟหรือระเบิดได้, LEL lower explosive limit ค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่ทำให้ก๊าซนั้นติดไฟหรือระเบิดได้  

  • ส่วนผสมทางเคมี composition : 100% C2H2 (หนึ่งร้อยเปอร์เซนต์อะเซทีลีน)

 


(b) ก๊าซธรรมชาติ natural gas
คือก๊าซชีวภาพชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการทับถมของซากสิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ นับหลายล้านปี ซากเหล่านี้แปรสภาพเป็นก๊าซและน้ำมันเนื่องจากความร้อน ความกดดันของผิวโลกและสะสมอยู่ในชั้นเปลือกโลก เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน สูตรทางเคมี CnH2n+2 โดยทั่วไปจะประกอบด้วยมีเทน (methane, CH4) ตั้งแต่ ๗๐ เปอร์เซนต์ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของแหล่งนั้นๆ   
สารประกอบ hydrocarbon ในก๊าซธรรมชาติ
  • Methane CH4
  • Ethane C2H6
  • Propane C3H8
  • Butane C4H10
  • Pentane C5H12
  • Hexane C6H14
  • CH2/N2/H2O/H2S เป็นต้น

 


คุณสมบัติทางกายภาพของก๊าซธรรมชาติ
  • กลิ่น smell : โดยปกติจะไม่มีกลิ่น แต่จะเติมกลิ่นเข้าไปในกระบวนการผลิต ทั้งนี้หากรั่วไหลออกนอกระบบบรรจุ จะได้มีกลิ่นให้ทราบว่ารั่วและอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ คนจะได้ต่อต้านการหายใจเข้าไป
  • ความหนาแน่นเมื่อเทียบกับอากาศ density relative to air : 0.62 เท่าของอากาศ ความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศ เมื่อรั่วไหลออกนอกระบบจะลอยตัวขึ้น
  • ค่าความร้อน heating value mj/m3 : 38
  • ความสามารถในการติดไฟ degree of flammability : ติดไฟง่าย high
  • ช่วงติดไฟ flammable rang : UEL-LEL= 5.3-14 เปลี่ยนแปลงได้ตามค่าส่วนผสมทางเคมีของแต่ละแหล่งที่ขุดเจาะก๊าซขึ้นมา
  • ส่วนผสมทางเคมี composition : ส่วนผสมทางเคมีซึ่งเป็นองค์ประกอบกำหนดคุณสมบัติของก๊าซ เปลี่ยนแปลงได้ตามแหล่งที่ขุดเจาะก๊าซขึ้นมา โดยทั่วไป :  

90.6% methane /5.6% ethane /1.0% hydrocarbon /1.7% CO2 และ /1.1% N2 



(c) ก๊าซหุงต้มและคุณสมบัติทางกายภาพ
  • กลิ่น smell : โดยปกติจะไม่มีกลิ่น แต่จะเติมกลิ่นเข้าไปในกระบวนการผลิต ทั้งนี้หากรั่วไหลออกนอกระบบบรรจุ จะได้มีกลิ่นให้ทราบว่ารั่วและอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ คนจะได้ต่อต้านการหายใจเข้าไป
  • ความหนาแน่นเมื่อเทียบกับอากาศ density relative to air : 1.73 เท่าของอากาศ ความหนาแน่นมากกว่าอากาศ เมื่อรั่วไหลออกนอกระบบจะลอยลงต่ำ
  • ค่าความร้อน heating value mj/m3 : 39
  • ความสามารถในการติดไฟ degree of flammability : ติดไฟง่าย high
  • ช่วงติดไฟ flammable rang : UEL-LEL= 2-9 เปลี่ยนแปลงได้ตามค่าส่วนผสมทางเคมีของแต่ละแหล่งที่ขุดเจาะก๊าซขึ้นมา
  • ส่วนผสมทางเคมี composition : 55.0-64.2 % C3H8 และ 32.5-45.0 % C4H10    

บันทึกเพิ่มเติม : เนื่องจากแต่ละหน่วยงาน อาจมีก๊าซติดไฟได้แตกต่างกันออกไปตามกระบวนการทำงาน ฉะนั้นก่อนทำงานกับก๊าซติดไฟได้ให้ศึกษาข้อมูลดังตัวอย่างข้างต้นนี้ก่อน ข้อมูลที่กล่าวถึงนี้ให้ค้นคว้าจากเอกสารความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ก็ได้ (MSDS-material safety data sheet)  

 

 

. ออกซิเจน oxygen

ออกซิเจนที่อุณหภูมิบรรยากาศจะมีสถานภาพเป็นก๊าซ มีส่วนประกอบในอากาศมากเป็นอันดับสองรองจากไนโตรเจน ซึ่งในบรรยากาศจะมีออกซิเจน ๒๐.๙ เปอร์เซ็นต์และไนโตรเจน ๗๘.๐๘ เปอร์เซนต์, ความหนาแน่นเป็น (density relative to air) .๑ เท่าของอากาศ ไม่ติดไฟแต่เป็นหนึ่งในสามขององค์ประกอบที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้ ออกซิเจนจะช่วยให้การติดไฟหรือการระเบิดรุนแรงขึ้นเมื่อ

  • ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น
  • ทำให้ความหนาแน่นสูงขึ้น เช่นออกซิเจนบรรจุถังและรั่วออกในพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสูงเกินระดับ ๒๓.๕ เปอร์เซนต์โดยปริมาณ    

 

 

คุณสมบัติทางกายภาพ
  • สี กลิ่น รส : ในสภาวะปกติจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและไม่มีรส
  • ความหนาแน่นเมื่อเทียบกับอากาศ density relative to air : .๑ เท่า ความหนาแน่นใกล้เคียงกับอากาศ เมื่อรั่วไหลออกนอกระบบจะลอยปนอยู่กับอากาศ
  • ค่าความร้อนและความสามารถในการติดไฟ degree of flammability : ไม่ติดไฟ
  • หากลดอุณหภูมิลง -๑๘๒.๕ องศาเซนเซียส จะเปลี่ยนสถานะจากก๊าซเป็นของเหลว มีสีฟ้าอ่อน (cryogenic appearance : pale blue color)
  • จุดเยือกแข็ง -๒๑๘.๔ องศาเซนเซียส จะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งสีฟ้าอ่อน

.๓ การส่งถ่ายความร้อน heat transfer
ความร้อนหรือประกายไฟ ถูกส่งถ่ายไปสัมผัสสารติดไฟ ได้อย่างไร-จะมีมาตรการป้องกันควบคุมไม่ให้ความร้อนหรือประกายไฟไปสัมผัสกับสารเชื้อเพลิงได้อย่างไร, วิธีส่งถ่ายความร้อนและการเคลื่อนที่ของประกายไฟ
  • การนำความร้อน
  • การพาความร้อน
  • การแผ่รังสีความร้อน
  • การกระเด็นและการตกของสะเก็ดไฟ  

(a) การนำความร้อน heat conduction
คือปรากฏการณ์ที่พลังงานความร้อนถ่ายเทภายในวัตถุหนึ่งๆ หรือระหว่างวัตถุสองชิ้นที่สัมผัสกัน โดยมีทิศทางของการเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงไปบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า โดยที่ตัวกลางไม่มีการเคลื่อนที่หรือกล่าวคือการนำความร้อนเป็นลักษณะการถ่ายเทความร้อนผ่านโดยตรงจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่งโดยการสัมผัสกัน วัสดุใดจะนำความร้อนดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับสัมประสิทธิ์การนำความร้อน

 

(b) การพาความร้อน heat convection
การพาความร้อน คือการส่งถ่ายความร้อนผ่านตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือก๊าซ โดยที่ของเหลวหรือก๊าซที่ได้รับความร้อนจะเคลื่อนที่พาความร้อนไปด้วย กล่าวคือเมื่อสสารได้รับความร้อนก็จะขยายตัว ความหนาแน่นของอนุภาคลดลงและลอยตัวสูงขึ้น พร้อมกับพาความร้อนไปด้วย ส่วนของไหลที่ยังไม่ได้รับความร้อน ความหนาแน่นของอนุภาคซึ่งมากกว่า จะเคลื่อนมาแทนที่เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนสารนั้นได้รับความร้อนทั่วกัน เรียกว่าการพาความร้อน

 

(c) การแผ่รังสีความร้อน radiation
การแผ่รังสี เป็นการถ่ายเทความร้อนออกรอบตัวทุกทิศทาง โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง วัตถุที่อยู่โดยรอบจะมีความสามารถดูดกลืนความร้อนจากการแผ่รังสีได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสีและผิวของวัตถุ ตัวอย่างเช่นวัตถุสีดำหรือสีเข้มจะดูดกลืนความร้อนได้ดีกว่าวัตถุสีอ่อน, วัตถุผิวขรุขระดูดกลืนความร้อนได้ดีกว่าวัตถุผิวเรียบ ฯลฯ เป็นต้น

 

(d) การกระเด็นและการตกของสะเก็ดไฟ
การกระเด็นหมายถึงทิศทางเคลื่อนที่ของประกายไฟหรือสะเก็ดไฟไปทิศทางโดยรอบ บนล่าง ซ้ายขวา หน้าหลัง ส่วนการตกจะมีทิศทางตามแนวดิ่งเท่านั้น, การเคลื่อนที่ของประกายไฟ สะเก็ดไฟจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ ๓ องค์ประกอบคือ
  • เครื่องมือที่ใช้ ตัวอย่างเช่นการใช้หินเจียร์ ใช้เครื่องเชื่อมตัดก๊าซ ใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ฯลฯ การเคลื่อนที่ของประกายไฟ สะเก็ดไฟในลักษณะการกระเด็น การตก ก็แตกต่างกัน
  • พื้นที่ทำงานที่สูงบนเพลทฟอร์ม ทำงานบนพื้น ทำงานในพื้นที่คับแคบ
  • ทำงานในอาคาร ทำงานนอกอาคารมีลมพัดเคลื่อนประกายไฟ สะเก็ดไฟลอยไปได้ไกลกว่าลมเงียบ ฯลฯ เป็นต้น  
งานฝึกอบรม  แปลเอกสารเซฟตี้  งานที่ปรึกษาการจัดทำระบบ : บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA)  Tel 093 7719222  E-mail : sangtakieng@gmail.com 

กลับหน้าแรก : คลิ๊กตรงนี้
ไปยังตอนที่ ๒ การป้องกัน ควบคุมอุบัติเหตุ : อ่านต่อคลิ๊กตรงนี้ 
ไปยังตอนที่ ๓ แผนฉุกเฉินและแผนช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ : อ่านต่อคลิ๊กตรงนี้
  
MENU
 
WEB LINK
 
VISIT
 สถิติวันนี้ 78 คน
 สถิติเมื่อวาน 142 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
1375 คน
57560 คน
939612 คน
เริ่มเมื่อ 2012-10-14
 
Copyright (c) 2006 by Ronnarong