Sangtakieng.com

รำลึกขุนพลเพลงลูกทุ่งเลือดน้ำเค็ม ชาตรี ศรีชล
รณรงค์ แสงตะเกียง : รวบรวม เรียบเรียง

ชาตรี ศรีชล เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งเลือดน้ำเค็ม ก้าวสู่วงการด้วยการไปสมัครร้องเพลงกับวง รวมดาวกระจายของครูสำเนียง ม่วงทอง ออกจากวงครูสำเนียงก็ย้ายไปอยู่กับวง สีนวล สมบัติเจริญ ครั้งปลายปี ๒๕๑๑ แตงเพลงและชวยเคาะจังหวะการร้องเพลงให้สีนวลคือเพลงรักหน่อยนะ จนสีนวลมีชื่อเสียงในปี ๒๕๑๓
 

          
       ซ้าย ชาตรี ศรีชล  ขวา วัดนากระรอก พนัสนิคม ใกล้บ้านเกิดชาตรี

ครั้นสีนวลเลิกวงก็ออกมาตั้งวงเอง ทำได้แค่ปีเดียวก็มีอันต้องยุบไป เนื่องจากโดนจับข้อหาหนีทหาร ออกจากซังเตตั้งวงใหม่และกลับมาอีกครั้งด้วยเพลงไปเอาเหล้ามา จากงานประพันธ์ของตัวเอง
ชาตรี ศรีชล มีชื่อจริงว่าสมบุญ ลีเส็ง เกิดเมื่อวันจันทร์เดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๙๒ ที่บ้านนาตาลอก ตำบลทุ่งขวาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เรียนหนังสือที่โรงเรียนชลชายซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด

ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกปี ๒๕๑๒ เพลงบัวหลวง ซึ่งแต่งไว้ก่อนเข้าวงการ ผลงานเพลงที่สร้างชื่อมีมากมายอาทิ สมัครรักสมัครแฟน ชำรักจากเมืองชล สาวผักไห่ เมาเหล้าเมารัก รอไม่ไหว วอนแฟนเพลง ทหารห่วงเมีย แฟนมีแฟนใหม่ โฉมนาง ธรณีชีวิต รักหรือเปล่า หลังคาแดง ซมซาน สาวอาปาเช่ ฯลฯ

เพลงชำรักจากเมืองชล ที่เนื้อหาของเพลงมีว่าพี่ยากจนจากชลบุรี ขอน้องปราณีสงสารพี่หน่อย แต่เจ้าตัวไม่ได้ชำรัก เพราะคนชื่อ "ปราณี" ที่ปรากฏในบทเพลงคือคู่ชีวิตในเวลาต่อมามีบุตรด้วยกันสี่คน ชายหนึ่งและหญิงสามคน

 

        
 

ภาพบนซ้าย : อัฐิชาตรีและเอกกวี ศรีชลถูกเก็บไว้ด้วยกันที่วัดนากระรอก

ภาพกลางเสื้อขาว : เล็ก คำมีผล ปัจจุบัน (๒๕๕๓) อายุ ๗๕ ปี อดีดมือกีตาร์วงสุนทราภรณ์ มือทรัมเป็ดวงดนตรีลูกทุ่งสมยศ ทัศนพันธ์ วงผ่องศรี วรนุชและวงยุพิณ แพรทอง ร่วมเดินทางไปเก็บข้อมูลที่บ้านเกิดชาตรี ศรีชลเมื่อ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๑

หลังจากจากเลิกวงแล้วก็ร้องเพลงตามห้องอาหารและรับเชิญเป็นบางโอกาส, ชาตรีถือว่าเป็นนักร้องอัจฉริยะคนหนึ่ง ในวันหนึ่งๆ สามารถประพันธ์เพลงได้หลายสิบเพลงเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าได้ดื่มสุราด้วยแล้ว ว่ากันว่าสมองแล่นเขียนเพลงได้อรรถรสยิ่ง ช่วงท้ายของชีวิตเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบ่อยสุขภาพเสื่อมโทรม เนื่องจากดื่มสุราหนักและท้ายที่สุดก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี เมื่อ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๓๒ อายุ ๔๐ ปี เพลงที่ชาตรีประพันธ์ไว้มีราว ๒๐๐ เพลง เพลงที่ยังไม่เคยบันทึกเสียงอีกราว ๑๐๐ เพลง

ครั้งงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทยครั้งแรก เอกกวี ศรีชล บุตรชายคนเดียวของเขา ได้ร้องเพลงสาวผักไห่แทนผู้พ่อ นับแต่นั้นมาข่าวคราวครอบครัวศรีชลก็เงียบหายไป
ปราณีผู้หญิงในบทเพลงช้ำรักจากเมืองชล ที่ชาตรีเขียนถึง วันนี้อยู่กับลูกสาวสองคนและหลานอีกหนึ่งคน ข้างวัดไก่เตี้ย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ปทุมธานี ขายอาหารตามโรงงาน ปัจจุบันเปิดร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และประดับยนต์ ส่วนลูกสาวเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือในตลาดพูนทรัพย์ บางพูนชื่อร้านเอ๋, หลังจากสูญเสียชาตรีสิบปี เอกกวี ศรีชล ลูกชายคนเดียวก็จากไปด้วยโรคลมชักเมื่อปี ๒๕๔๒ ถึงวันครบรอบการเสียชีวิตของชาตรี ครอบครัวจะเดินทางไปไหว้กระดูกที่วัดนากระรอก อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรีบ้านเกิดของเขา ซึ่งได้นำกระดูกของลูกชายไปไว้คู่กันที่นั่น

สมัยชาตรียังอยู่ ปราณีเป็นนักร้องอยู่กับวงสีนวล เดินสายไปด้วยกันได้อัดเสียงสองเพลงคือรอทหารและเพลงตกลง ในชื่อปราณี ศรีชล จากนั้นตั้งวงดนตรีด้วยกันและมาหยุดวงเนื่องจากชาตรีถูกจับเรื่องหนีทหาร ช่วงติดคุกอยู่ที่อำเภอแกลง ชาตรีแต่งเพลงชื่อตะรางและออกจากคุกในยุคที่สายัณห์ สัญญา โด่งดังมาก นิสัยเป็นคนดื่มเหล้าเก่ง ดื่มไม่เป็นเวลา ตอนเมาๆ สมองจะแล่นมีอารมณ์ศิลปิน เจ้าระเบียบและใจดี เพื่อนฝูงใครเดือดร้อนก็ช่วยเหลือ

ในวงการเพลงลูกทุ่ง ชาตรี ศรีชลถือว่าเป็นนักเพลงขี้เมาตัวจริง ยิ่งเมายิ่งไหลลื่น ตรงข้ามพอเลิกเมากลับเขียนเพลงไม่ค่อยได้เรื่อง ออกอ่าวออกทะเล เขาให้สัมภาษณ์ไว้ในราชาเสียงทอง ฉบับที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๒๗ ว่าช่วง ๒๕๒๗ ได้เลิกเหล้าเลิกยาเสพติดเด็ดขาด เหลือเพียงสูบบุหรี่กรองทิพย์อย่างเดียว ร้องเพลงประจำที่ธนบุรีคาเฟ่ ผลงานช่วงไม่เมาของเขาปีนั้นคือชุดสาวสวยเมืองนนท์ ออกมาก็แป๊กเรียบร้อย บางเพลงก็วนไปเวียนมา เหมือนคนเมา, เวลาไม่เมาแต่งเพลงเหมือนคนเมาแต่ตอนเมาๆ แต่งเพลงดี-ดี

ความที่ชอบกัญชา เขาจึงเอามาตั้งเป็นชื่อในการร้องเพลงว่าชาตรี ฮีโร่ของเขาคือคำรณ สัมบุณณานนท์ นั่นก็จอมกัญชาและเสียชีวิตเพราะยาเสพติด ชอบร้องเพลงคนนอกสังคมของคำรณ เป็นเพลงประเภทลูกทุ่งขบถ ครั้งมาเขียนและร้องเพลงซมซาน...บอกร่องเสียงคำรณได้ชัดเจน ชาตรีบอกว่าเพลงดีๆ จากอารมณ์กัญชาเช่น ทหารห่วงเมีย หลังคาแดง สมัครรักสมัครแฟน ซมซาน ฯลฯ อย่างเพลงหลังคาแดงนั้นใช่เลย เมากัญชาแล้วจินตนาการลื่นไหล ส่วนเพลงอื่นๆ นั้นเขียนออกมาเป็นเรื่องเป็นราวอย่างน่าทึ่ง

ชาตรีเล่าให้ฟังถึงงานเพลงสาวฝักไห่ว่า วันหนึ่งราวปี ๒๕๑๗ ช่วงนั้นฉีดผงขาวเข้าเส้นเป็นประจำ ตกบ่ายว่างๆ ก็มานั่งกินเหล้าแถวปากซอยบุปผาสวรรค์ กับทม นทีทอง เพื่อนนักร้องอีกคนหนึ่ง เมาได้ที่ อารมณ์เพลงก็มาเอง เมาหนักทั้งเมาผงขาวและเมาเหล้า-โอกาสหน้าพี่จะมาหาใหม่ ไม่ลืมคนชื่อวิไลบ้านผักไห่อยุธยา อารมณ์ไหลไปโดยไม่เคยไปใกล้ชิดผักไห่หรือสาววิไลใครเลย สระไอ พาไปแท้ๆ, ๒๐ นาทีเพลงเสร็จอย่างลงตัว เสร็จในขณะที่คนแต่งทั้งเมา ทั้งเบลอเพราะฤทธิ์ผงขาวผสมเหล้าขาวนั่นเอง

เพลงเสร็จบอกขายให้ทม นทีทอง ในราคา ๑๐๐ บาท เพื่อหาค่าเหล้า ทมไม่ซื้อเพราะเห็นว่ายังเมาๆ อยู่ ชาตรีโกรธ พับกระดาษเพลงใส่กระเป๋า, ต่อมามนต์เมืองเหนือชวนมาอัดเพลง สาวผักไห่ดังระเบิด พีระ ตรีบุปผาทำดนตรีเพลงนี้อย่างน่าฟัง ผักไห่สำหรับชาตรี ศรีชลนั้น เคยเห็นแต่ป้ายทางหลวงเท่านั้นเอง เป็นเพราะความเมาและสระไอพาไปในอารมณ์กวีโดยแท้
 

กลับหน้าแรก คลิ๊กตรงนี้
กลับหน้าเมนูหลัก เสาะหามาเล่าค้นรื้อมาบอก คลิ๊กตรงนี้
ไปยังเมนู สุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่งผู้ไม่มีวันตาย : คลิ๊กตรงนี้
ไปยังเมนู บุปผา สายชล ราชินีเพลงลูกทุ่งภาคตะวันออก : คลิ๊กตรงนี้
ไปยังเมนู ระพิณ ภูไท สามล้อรับจ้างสู่จุดสูงสุดของชีวิตบนเส้นทางเพลงลูกทุ่ง : คลิ๊กตรงนี้
ไปยังเมนู ศรคีรี ศรีประจวบ นักร้องเพลงหวานจากบางคณที : คลิ๊กตรงนี้
ไปยังเมนู ชายธง ทรงพล ปูไก่ไข่หลงแบบฉบับคนรูปหล่อ (ไม่เสร็จ) : คลิ๊กตรงนี้

  
MENU
 
WEB LINK
 
VISIT
 สถิติวันนี้ 60 คน
 สถิติเมื่อวาน 120 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2827 คน
24158 คน
906210 คน
เริ่มเมื่อ 2012-10-14
 
Copyright (c) 2006 by Ronnarong