| 
|  |  
|  |  
| | ๕ 
 |  |  
 |  | lockout tagout safety and permit to work system |  | วิศวกรรมความปลอดภัยล็อคเอาท์ แท๊กเอาท์และการจัดทำระบบฯ |  |  |  | ตอนที่ห้า วิธีจัดทำ WI แนบเอกสารขออนุญาตทำงาน |  | งานเขียน เรียบเรียงและนำเสนอ : รณรงค์ แสงตะเกียง |  | facebook : รณรงค์ แสงตะเกียง |  |  |  | บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA) |  | อบรม สัมมนา งานที่ปรึกษาจัดทำระบบ & ระเบียบปฏิบัติงาน |  | e-mail : sangtakieng@gmail.com mobile 093 7719222 | 
 
 | วิธีจัดทำเอกสารคู่มือคำแนะนำ Work Instruction |  | ย้อนเชื่อมโยงถึงเอกสารแนบในขั้นตอนที่สองของใบขออนุญาตเข้าทำงาน
ซึ่งต้องมีเอกสารแนบสองส่วน คือ (1)
คู่มือคำแนะนำและ
(2)
ใบรายการตัดแยกพลังงานและล็อค-เอาท์ระบบ
วิธีเตรียมคู่มือคำแนะนำยังไม่ได้กล่าวถึง จึงจะอธิบายลงรายละเอียด ในลำดับนี้ | 
 
 | ปรับฐานความเข้าใจก่อนเตรียมเอกสารคู่มือคำแนะนำ |  | ปรับฐานความเข้าใจลำดับที่หนึ่ง :
ศาสตร์วิชาที่นำมา
ใช้ |  | ศาสตร์พื้นฐานที่นำมาประยุกต์ใช้และสร้างเป็นคู่มือคำแนะนำคือวิชาสุขศาสตร์อุตสาหกรรม
(industrial
hygiene : recognize, evaluate, control measure) ซึ่งนำมาใช้ร่วมกับการชี้บ่งและระบุอันตราย
การชี้บ่งและชี้บ่งอันตรายมีเครื่องมือหลายชนิด ตัวอย่างเช่น |  | Check listWhat if AnalysisHAZOP hazard and operability studiesFTA fault tree analysisFMEA failure modes and effects analysisETA even tree analysisPTA pre task analysisPA problem analysisPPA potential problem analysisJSA job safety analysisJSEA job safety and environmental analysisJHA job hazard analysisJTAP job task analysis and procedureFish bone diagramMORT management oversight and risk treeCauses and
effect-bow tieมอก.18004
หรือ M3E
 | 
 | เครื่องมือหลายตัวมีลักษณะคล้ายกัน
การนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเตรียมเอกสารคู่มือคำแนะนำจึงขึ้นอยู่กับความถนัด
วัฒนธรรมองค์กรหรือความเหมาะสมของกระบวนการทำงาน ตัวอย่างเช่น HAZOP
hazard and operability studies จะเหมาะสมกับกระบวนการที่เป็นท่อ ถัง ปั้ม
ฯลฯ เป็นต้น |  | การประยุกต์ใช้กับงาน
lockout
tagout and permit to work จะเลือกแนะนำเฉพาะบางเครื่องมือเท่าที่จำเป็น, ณ ลำดับนี้จะเน้นการกล่าวถึง job safety analysis เป็นอันดับต้น
และจะแนะนำเทคนิค check list และเครื่องมืออื่นเป็นลำดับถัดไป | 
 | ปรับฐานความเข้าใจลำดับที่สอง :
อันตรายที่แฝงอยู่ในกระบวนการทำงาน |  | เพื่อให้นำศาสตร์วิชาไปสู่การจัดทำเอกคู่มือคำแนะนำ
การให้ความหมายของอันตรายทั้ง 4 กลุ่มที่แฝงอยู่ในกระบวนการทำงาน ในเอกสารฉบับนี้
จะกล่าวในลักษณะประยุกต์ใช้หรือกล่าวถึงในแง่ทฤษฎีเชิงปฏิบัติการเท่านั้น | 
 | อันตรายทางด้านกายภาพ (P-physical
hazards) หมายถึงอันตรายที่อยู่ในลักษณะ
สั่นสะเทือน บาด ตัด หนีบ ทิ่มแทง ฝุ่นควัน ร้อนหนาว รังสี
ของตกใส่หรืออื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกันอันตรายทางด้านเคมีและวัตถุอันตราย (C-chemical
and hazardous substance) เคมีและวัตถุอันตรายอาจอยู่ในสถานะของแข็ง
ของเหลวหรือก๊าซ ดังนั้นจึงเข้าสู่ร่างกายได้สามทางคือ
 |  | สูดดม (inhalation)ปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำและกลืนกินเข้าไป (ingestion)ซึมผ่านผิวหนัง (skin)
 |  | อันตรายทางด้านชีวภาพ (B-biological
hazards) สารทางชีวภาพมีประมาณ 200 ชนิดเช่น จุลินทรีย์ สารที่ทำให้เกิดการแพ้ สารพิษ เชื้อโรคหรือการติดเชื้อ ฯลฯ /บันทึกเพิ่มเติม :
กรณีเป็นงานปฏิบัติการทั่วๆ
ไป อาจเข้าใจหยาบๆ ดังกล่าวข้างต้นก็อาจเพียงพอ
แต่หากเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยารักษาโรค อาหาร เครื่องดื่ม
ที่ทำตามระบบคุณภาพ GMP, HACCP ต้องศึกษาอันตรายด้านนี้โดยละเอียดอันตรายทางด้านเออร์กอนโอมิกส์ (การยศาสตร์หรือจิตวิทยาสังคม=ergonomics hazards) หมายถึงอันตรายที่เกิดจาก 3 
สาเหตุและส่งผลกระทบต่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อโครงร่าง :
สาเหตุที่ทำให้เกิดอันตราย
 |  | การเคลื่อนที่แบบเดิมซ้ำๆ
มากครั้งยกของหนักเกินกำลังทำงานด้วยท่าทางฝืนธรรมชาติ
 | 
 | ปรับฐานความเข้าใจลำดับที่สาม :
ชื่อเรียกเอกสารคู่มือคำแนะนำ |  | เนื่องจากการจัดทำคู่มือคำแนะนำ
เป็นการนำศาสตร์วิชามาประยุกต์ใช้ 
วัฒนธรรมการเรียกชื่อในภาคภาษาอังกฤษอาจแตกต่างกันออกไป
และด้วยเหตุดังกล่าวนี้
ส่งผลโดยตรงให้ผู้ที่ศึกษาแบบไม่สมดุลระหว่างภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเกิดความสับสนและเข้าใจเบี่ยงเบนไปจากความเป็นจริง
คู่มือคำแนะนำอาจเรียกชื่ออย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ ตัวอย่างเช่น |  | WI-work instructionMMS-work method
statementSWS-safety work
method statementWS-work standardSWS-safety work
standardSOP-standard operating
procedureSSOP-safety standard
operating procedureSJP-standard job
procedureSSJP-safety standard job procedure etc.
 | 
 | แนวคิดเพื่อจัดทำเอกสารคู่มือคำแนะนำ |  | เอกสารคู่มือคำแนะนำประกอบด้วย ๓ ส่วน
ส่วนแรกเป็นขั้นตอนการทำงาน ส่วนที่สองคือการชี้บ่งและระบุอันตราย
หากขั้นตอนใดชี้บ่งและระบุอันตรายได้ ให้นำไปควบคุมอันตราย
ซึ่งการควบคุมอันตรายถือว่าเป็นส่วนที่สาม
ต้องไม่ลืมว่าพื้นฐานของเอกสารคู่มือคำแนะนำ ประกอบด้วยสามส่วน | 
 | ขั้นตอนงาน (work
steps or work statements)ชี้บ่งและระบุอันตราย (hazard
identified)กำหนดมาตรการป้องกัน
ควบคุมอันตรายเฉพาะขั้นตอนที่ชี้บ่งและระบุอันตรายได้ (control
measure)
 |  |  | 
 
 | ลำดับที่หนึ่ง
: เขียนขั้นตอนงาน
work steps or work statements |  | การเตรียมการเพื่อเขียนขั้นตอนงาน
เริ่มจากทำความเข้าใจขอบเขตของงานและทำสำรวจพื้นที่
หลังจากนั้นจึงเริ่มกำหนดขั้นตอนงาน
โดยเริ่มจากกำหนดขั้นตอนหลักและนำขั้นตอนหลักมาแจกแจงเป็นขั้นตอนย่อยๆ บันทึกเพิ่มเติม :
ขั้นตอนหลักคือขั้นตอนที่บอกลำดับการทำงานแบบกว้างๆ
ไม่อธิบายลงรายละเอียด
ส่วนขั้นตอนย่อยคือการนำขั้นตอนหลักมาแจกแจงลงรายละเอียดเป็นภาษากริยาว่าให้ทำอย่างไร
เช่นถอดออก ประกอบ ขั้นกวด ตรวจสอบ ฯลฯ เป็นต้น | 
 | กรณีศึกษาอย่าง่าย
เกี่ยวกับการเขียนขั้นตอนปฏิบัติงาน แผนภาพเป็นระบบส่งน้ำดิบเข้าสายการผลิต :
ความบกพร่องคือปะเก็นของวาล์วด้านจ่ายรั่ว
มีคำสั่งงานเปลี่ยนปะเก็น |  | 
 | 
 | หลังจากทำสำรวจภาคสนามและยืนยันเปลี่ยนปะเก็นของวาล์วด้านจ่าย
(discharging
valve) จึงกำหนดการปฏิบัติงานออกเป็น
๔ ขั้นตอนหลัก ดังนี้ |  | การเตรียมการ ตัดแยกพลังงานและล็อค-เอาท์ระบบถอดวาล์วด้านจ่ายเพื่อเปลี่ยนปะเก็นเปลี่ยนปะเก็นและประกอบชิ้นส่วนของปั๊มที่ถอดออก กลับเช่นเดิมทดลอง ทดสอบเดินเครื่อง
 | 
 | จะเห็นได้ว่าขั้นตอนหลัก
มีเจตนารมณ์เพียงบอกลำดับปฏิบัติเป็นกลุ่มงานเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดว่าให้ทำอย่างไรก่อนหลังยังไม่มี จึงนำไปสนับสนุนการทำงานไม่ได้
ดังนั้นจึงต้องนำแต่ละขั้นตอนหลักไปแจกแจงเป็นขั้นตอนย่อยๆ |  | 1. การเตรียมการ ตัดแยกพลังงานและล็อค-เอาท์ระบบ
 |  | 1.1 ตัดแยกพลังงานและล็อค-เอาท์ระบบ 1.2 ปิดกั้นควบคุมพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยพิจารณาใช้สายแถบกั้นอันตราย (ขาว-แดง), รั้วแข็ง ไฟวับวาบหรือสัญลักษณ์ความปลอดภัยอื่นๆ ตามสภาพแวดล้อมการทำงาน 1.3 เตรียมอุปกรณ์ อะไหล่สำรอง วัสดุที่ต้องใช้ เครื่องมือช่าง ฯลฯ 1.(n) .............................................................................
 | 
 | ลำดับที่สอง
: ชี้บ่งและระบุอันตราย
hazards identified |  | ลำดับทีสอง
ให้นำทุกขั้นตอนย่อยมาชี้บ่งและระบุอันตราย โดยชี้บ่งอันตรายให้ครอบคลุมทั้ง ๔
กลุ่ม,
ตัวอย่างเช่นนำขั้นตอนที่
๒.๑
มาชี้บ่งอันตราย ก็ให้ดูว่าในขั้นตอนนี้มีอันตรายทางกายภาพ เคมี
ชีวภาพและเออร์กอนโอมิกส์หรือไม่ สมมุติว่ามีอันตรายทางด้านกายภาพ
ก็ต้องระบุว่าเป็นอันตรายลักษณะใด สั่นสะเทือน หรือบาด หรือตัด หนีบ ทิ่มแทง
ฝุ่นควัน ร้อนหนาว กระแทกชน ฯลฯ ต้องระบุว่ามีอันตรายลักษณะใด 
การชี้บ่งและระบุอันตรายนั้น
ต้องทำเป็นลำดับขั้นและต้องครอบคลุมอันตรายทุกกลุ่มทั้งอันตรายทางด้านกายภาพ เคมี
ชีวภาพและเออร์กอนโอมิกส์ เพื่อให้เข้าใจโดยง่าย
จึงสรุปขั้นตอนการชี้บ่งและระบุอันตรายดังนี้ |  | นำขั้นตอนย่อยตั้งแต่ขั้นตอนย่อยแรก
กระทั่งถึงขั้นตอนสุดย่อยข้อสุดท้าย มาชี้บ่งและระบุอันตรายข้อใดชี้บ่งและระบุอันตรายไม่ได้ ก็ไม่ต้องกำหนดมาตรการควบคุมหากข้อใดมีอันตรายหลายอย่าง
ก็ต้องระบุให้ครบและต้องกำหนดมาตรการควบคุมอันตรายทั้งหมดทบทวนความถูกต้องซ้ำ
 | 
 | ลำดับที่สาม
: กำหนดมาตรการควบคุมอันตราย
control measure |  | มาตรการควบคุมอันตรายตามทฤษฏีคือ
ควบคุมที่แหล่งกำเนิด ความคุมที่ทางผ่านและควบคุมที่ตัวคนทำงาน (source,
patch and receiver) ณ ที่นี้ไม่ได้บอกว่าผิด
แต่นำมาใช้งานยากเนื่องจากขอบเขตกว้างเกินไป
ในแง่ประยุกต์ใช้จึงแนะนำให้เลือกวิธีควบคุมอันตรายเป็นลำดับขั้น (hierarchy
of control) จะง่ายกว่าและควบคุมอุบัติเหตุได้มีประสิทธิภาพสูงกว่า | 
 | การควบคุมอุบัติเหตุเป็นลำดับขั้น hierarchy
of control : จะอธิบายลงรายละเอียดในหัวข้อถัดไป (หัวข้อ มาตรการควบคุมอุบัติเหตุในงานปฏิบัติการ) |  | แยกงานออกจากอันตราย eliminate
get
rid of the hazardใช้วิธีหรือกระบวนการที่อันตรายน้อยกว่าแทน substitute
replace
with
less
hazardous
material
or
processใช้เครื่องป้องกันระหว่างอันตรายกับคนหรือตัดแยกระบบ
engineering
a solution (barriers,
isolation)
guards between people and hazardsกำหนดนโยบาย
มีระบบเอกสารสนับสนุนการปฏิบัติงานใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
ตรงกับลักษณะงาน personal protective equipment
correct
for work
task
 | 
 
 | งานฝึกอบรม  แปลเอกสารเซฟตี้  งานที่ปรึกษาจัดทำระบบ lockout tagout : บริษัท เอเซีย แสงตะเกียง จำกัด (ASSA)  Tel 093 7719222  E-mail : sangtakieng@gmail.com |  |  | 
 
 
| กลับหน้าแรก : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่หนึ่ง ความเข้าใจการตัดแยกพลังงาน ล็อคเอาท์ระบบ : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่สอง อุปกรณ์ปิดกั้น ควบคุมพื้นที่และเซฟตี้แท็ก : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่สาม ขั้นตอนการตัดแยกพลังงานและทำล็อคเอาท์ แท๊กเอาท์ : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่สี่ การตัดแยกระบบและขออนุญาตทำงาน : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่หก มาตรการควบคุมอุบัติเหตุในงานปฏิบัติการ  : คลิ๊กตรงนี้ |  | ตอนที่เจ็ด การจัดทำระบบล็อคเอาท์ แท๊กเอาท์ในสถานประกอบกิจการ : คลิ๊กตรงนี้ |  |  
|  |  |  | 
| 
| VISIT |  
| 
| 
|  สถิติวันนี้ | 146 คน |  
|  สถิติเมื่อวาน | 196 คน |  
|  สถิติเดือนนี้ 
  สถิติปีนี้ 
  สถิติทั้งหมด | 5683 คน 56199 คน
 998165 คน
 |  
| เริ่มเมื่อ 2012-10-14 |  |  |  
|  |  |  |